สปสช. ชวนทำความเข้าใจ “สิทธิว่าง” สิทธิการรักษาพยาบาล สำหรับคนที่ยังไม่มีสิทธิสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลที่รัฐจัดให้ และยังไม่ได้ลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท หรือ สิทธิบัตรทองสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ออกมาให้ข้อมูลวันนี้ (21 ก.ย.65) เกี่ยวกับบุคคลสัญชาติไทยที่ยังขาดสิทธิสิทธิรักษาพยาบาลฟรี ที่มาจากสวัสดิการด้านการารักษาพยาบาลที่รัฐจัดให้ ผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท หรือ สิทธิบัตรทอง
รีบทำความเข้าใจความหมายของคำว่า สิทธิว่าง คืออะไร ?
เพื่อกลุ่มคนที่คุณสมบัติเข้าเกณฑ์แต่ยังไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาที่หน่วยงานภาครัฐจัดให้เป็นสัวสดิการโดยทั่วไปของประชาชนคนไทย สำหรับคำว่า “สิทธิว่าง” หมายถึง ประชาชนไทยที่ยังไม่มีสิทธิสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลที่รัฐจัดให้ และยังไม่ได้ลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท หรือ สิทธิบัตรทอง เลือกหน่วยบริการประจำตามสิทธิของตนเอง
สำหรับประชาชนที่มี “สิทธิว่าง” หากมีอาการเจ็บป่วย สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลที่หน่วยบริการ(สถานพยาบาล) ในระบบหลักประกันสุขภาพได้ทุกแห่ง โดยยืนบัตรประชาชน(กรณีเป็นเด็กใช้สูติบัตร) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
แนะนำให้ดำเนินการลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการ(สถานพยาบาล) ตามสิทธิ ได้ตามที่พักอาศัยจริงไม่จำเป็นต้องตามทะเบียนบ้าน สามารถลงทะเบียนและรับการรักษาได้ทันทีไม่ต้องรอ 15 วัน
โกตัม อดานิ (Gautam Adani) เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดของเอเชีย วัย 59 ปี โดยเขาและครอบครัวเป็นชาวอินเดีย ผู้ก่อตั้งธุรกิจด้านพลังงานมากมาย เช่น Adani Group สำหรับมูลค่าสินทรัพย์ของโกตัมและครอบครัว อยู่ที่ราว 154 พันล้านเหรียญ หรือ 5.745 ล้านล้านบาท
อีกหนึ่งเศรษฐีที่มีอิทธิพลต่อโลกมากที่สุด ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าของบริษัท Amazon บริษัทค้าปลีกออนไลน์ วัย 58 ปี จากประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง เจฟฟ์เคยครองตำแหน่งเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก เมื่อช่วงปี 2017 ก่อนจะลงมาอยู่อันดับที่ 4 ในปีนี้ สำหรับสินทรัพย์ของเจฟฟ์ล่าสุด มีมูลค่าอยู่ราว 142 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 5.29 ล้านล้านบาท
บิล เกตส์ (Bill Gates) น่าจะเป็นหนึ่งในเศรษฐีที่คนคุ้นหน้าคุ้นตามากที่สุด เนื่องจากธุรกิจของเขาเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกต่างต้องเคยใช้งาน นั่นก็คือระบบไมโครโซฟนั่นเอง สำหรับบิลเกตส์ นักธุรกิจจากอเมริกาคนนี้ เขามีสินทรัพย์รวมกันทั้งสิ้น 103.7 พันล้านเหรียญ หรือราว 3.869 ล้านล้านบาท
เงินบาทเปิดอ่อนค่าหนักทะลุ 37.4 บาท หวั่นวิกฤตเงินเฟ้อกระทบค่าครองชีพ
จับตามองต่อ เงินบาทอ่อนค่า 37.4 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง และหนักสุดในรอบ 16 ปี คาดผลจากการประชุมเฟด เข้าขั้นวิกฤต หลังค่าเงินบาทล่าสุด วันที่ 21 กันยายน 2565 เปิดตลาดมาด้วยระดับ 37.4 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ พร้อมอัตราความผันผวนสูงเนื่องจากการประชุมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ด้านนักลงทุนเตรียมรับมือหลังทราบผลการประชุม
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าความกังวลแนวโน้มเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงต่อเนื่องและอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยถึง 1.00% ในการประชุมเดือนกันยายน โดยตลาดมองโอกาสราว 18% ที่เฟดจะเร่งขึ้นถึง 1.00%
ด้านตลาดบอนด์ แนวโน้มเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจนอาจแตะระดับ 4.50%-4.75% ได้หนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ที่ระดับ 3.60% อย่างไรก็ดี บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงเล็กน้อยและแกว่งตัวใกล้ระดับดังกล่าว
เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงรอประเมินแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของเฟดจากคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดของเฟด (Dot Plot) ขณะที่ผู้เล่นบางส่วนยังคงทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาว ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนักและเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า หากเฟดเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยที่กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1,674 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราประเมินว่า ราคาทองคำจะมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นหลังตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด ทว่าต้องระวังความผันผวนของราคาทองคำในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟด
เราคาดว่า เงินบาทจะผันผวนสูงในช่วงก่อนและหลังตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด โดยเงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบกว้างถึง 36.70-37.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทอาจอ่อนค่าหนักแตะโซนแนวต้านดังกล่าวได้ หากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหนัก ตามความกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง
ในกรณีนี้ ราคาทองคำก็อาจปรับตัวลงหนักและคาดว่าจะมีโฟลว์ธุรกรรมซื้อราคาทองคำในจังหวะย่อตัว เข้ามากดดันให้เงินบาทอ่อนค่าได้
ในขณะที่ หากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไม่ได้รุนแรงกว่าตลาดคาด หรือ ไม่ได้เซอไพรส์ตลาด เราอาจเห็นการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ พร้อมกับการรีบาวด์ของราคาทองคำ ซึ่งอาจช่วยหนุนให้เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าใกล้โซนแนวรับได้
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง